ปลอมเอกสาร สมัครบัตรเครดิต ระวัง งานเข้า!
จริงอยู่ที่การมีบัตรเครดิตช่วยให้คุณเกิดความสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้น หรือเกิดสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นด้วยเช่นกัน และยังได้สิทธิประโยชน์ที่ธนาคารเจ้าของบัตรมอบให้ อาทิ ส่วนลดจากร้านค้าต่าง ๆ, สะสมแต้มเพื่อแลกของ, Cash back เป็นเงินเครดิตเข้าบัญชีบัตรเครดิต หรือเปลี่ยน Cash back เป็นเงินฝากเข้าบัญชี ทำให้มีเงินเก็บเพิ่มไปด้วยในตัว ที่กล่าวมาจะเห็นว่ามีแต่ข้อดี แต่ทว่าทุกสิ่งล้วนมี 2 ด้าน ในด้านแย่ก็คือ ถ้าคุณไม่ได้ระมัดระวังการใช้จ่ายเงิน ใช้แบบไม่คิดให้รอบคอบ เมื่อถึงเวลาชำระ ก็จ่ายยอดเงินขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ เงินที่ค้างอยู่ในบัตรก็มากขึ้น ๆ จนกลายเป็นบัตรเสีย ติดเครดิตบูโร ก็ต้องไปถึงการประนอมหนี้ ขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งไม่ใช่เรื่องสนุกเลย แต่เมื่อยอดเงินรายได้ไม่ถึงตามเกณฑ์ธนาคารกำหนด แต่มีมิจฉาชีพมาช่วยคุณปลอมเอกสาร สมัครบัตรเครดิต งานนี้ขอเตือนนะคะว่าระวัง งานเข้า!
โดนปลอมเอกสารทำบัตรเครดิต – ปลอมเอกสาร สมัครบัตรเครดิต
ในเรื่องของเอกสารทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะใช้ทำอะไรก็ตาม สิ่งที่ควรจะต้องระมัดระวังมีมากมาย เรามีกรณีศึกษามาเล่าให้ฟังว่า หากคุณมีการปลอม หรือถูกปลอมเอกสาร จะเกิดหายนะอย่างไรกับชีวิต ดังนี้ค่ะ
- กรณีศึกษาแรก เราขอเรียกว่าคุณเอ นะคะ เธอเป็นแม่ค้า เปิดร้านเล็ก ๆ เงินมีพอใช้บ้าง ไม่เหลือเก็บเท่าไหร่ เพราะมีลูกเล็ก และเป็นซิงเกิ้ลมัม เรียกได้ว่าฐานรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดแน่ ๆ วันดีคืนดีมีคนทำทีมาเป็นลูกค้า และชวนเธอสมัครบัตรเครดิต พูดจาหว่านล้อมให้ดูน่าเชื่อถือ จนเธอให้เอกสารประจำตัวไปหลายชุด มีเซ็นเอกสารบ้าง ไม่เซ็นบ้าง ผ่านไปไม่นานก็ได้บัตรกดเงินสดมา 1 ใบ มิจฉาชีพก็ตามมาขอค่าคอมมิชชั่นที่คุยไว้ ซึ่งเป็นจำนวนหลายหมื่น ต่อมาก็ชวนสมัครบัตรเครดิตอีก 2-3 ใบ และใช้วิธีรูดซื้อของเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินมาทั้งหมด พร้อมกับหักค่านายหน้าเหมือนเดิม จากนั้นก็หายเข้ากลีบเมฆ เธอก็ใช้เงินในส่วนที่เหลือและจ่ายยอดขั้นต่ำ ผ่านมาได้ 4-5 เดือน สถาบันการเงินมาตามเธอ และแจ้งว่าเธอปลอมแปลงเอกสารรายได้ แน่นอนว่าติดต่อมิจฉาชีพไม่ได้ เมื่อเธอดูปรากฏว่ามีบางส่วนคือเอกสารเธอจริง แต่ไม่ใช่ลายเซ็นของเธอ และเอกสารรายได้ที่ยื่นไป ไม่ใช่ของเธอ ต้องบอกว่างานเข้าของแท้
- กรณีศึกษาที่ 2 คุณบี เคยสมัครงานในที่ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งต้องมีเอกสารส่วนตัวแนบไปพร้อมใบสมัคร โดยที่เธอไม่ได้เซ็นรับรองสำเนาเอกสาร อยู่มาวันหนึ่งมีคนจากธนาคารโทรมาแจ้งว่าเธอติดหนี้บัตรเครดิต ซึ่งกรณีนี้คือ มีมิจฉาชีพนำเอกสารของคุณบีไปแอบสมัครบัตรเครดิต และใส่ที่อยู่เป็นของมิจฉาชีพ ปลอมเอกสาร สมัครบัตรเครดิต แล้วก็เชิด งานนี้ก็เรียกว่างานเข้าเหมือนกัน แต่น่าจะแก้ไขง่ายกว่ากรณีแรก
จากกรณีศึกษาที่เล่าไป ซึ่งจริง ๆ ยังมีอีกเยอะมาก ๆ เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารเพื่อสมัครบัตรเครดิต ทั้งที่ทำเอง หรือถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ซึ่งหากคุณกำลังคิดที่จะทำเอง ขอบอกว่าอย่าหาทำ และเปลี่ยนใจเสียเถอะค่ะ แต่ถ้าป้องกันมิจฉาชีพจะพบจุดหนึ่งก็คือ เอกสารส่วนตัวของเราที่ถูกนำไปใช้ได้ง่ายเพราะไม่ได้มีการเซ็นชื่อกำกับไว้นั่นเองค่ะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต้องเซ็นเอกสารทุกใบและบอกรายละเอียดด้วยว่าใช้ไปเพื่อทำอะไร คุณสามารถดูรายละเอียดการเซ็นเอกสารที่ถูกต้องได้ ที่นี่ นอกจากนี้ก็อย่าโลภ อย่าเห็นแก่ได้จนมากเกินไป ซึ่งอาจเดือดร้อนภายหลังเหมือนกรณีศึกษาที่ 1 ได้นะคะ